คุจิกิ ลูเคีย
จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
ตัวละคร เทพมรณะ | |
---|---|
![]() |
|
คุจิกิ ลูเคีย | |
อาชีพ | รองหัวหน้าหน่วยที่ 13 |
วันเกิด | 14 มกราคม |
อายุ | เกือบ 10 รอบของ อิจิโกะ(ถ้านับเป็นอายุ คน จะน้อยกว่า อิจิโกะปีนึง) |
สีผม | สีดำ |
สีตา | สีดำ |
ส่วนสูง | 144 เซนติเมตร |
น้ำหนัก | 33 กิโลกรัม |
หมู่เลือด | B |
ดาบฟันวิญญาณ | โซเดะโนะชิรายูกิ |
พากย์เสียงโดย | ฟุมิโกะ โอริคาสะ (ญี่ปุ่น) ปัทมวลัย (ไทย) ศันสนีย์ ติณห์กีรดีศ (ไทย) |
เนื้อหา |
ลักษณะ/อุปนิสัย
ยมทูตหญิงที่นิสัยค่อนข้างเฮี้ยว หน้าตาสวยน่ารัก ตัวเล็ก ไว้ผมสั้นสีดำ ชอบทำตาขวางและมักจะแสดงอารมณ์รุนแรงเวลาไม่ค่อยพอใจอะไร โผงผาง ปากเร็ว แต่แท้จริงก็เป็นคนดีมาก ขี้กังวล มีความรับผิดชอบมาก เป็นห่วงคนอื่นตลอดเวลา และอ่อนโยน และก็ชอบกระต่ายจั๊ปปี้มากเช่นกัน ทำให้เธอชอบวาดรูปกระต่าย และเชื่อมั่นในฝีมือวาดภาพของตัวเองมาก แต่ความสามารถด้านศิลปะของเธอกลับพอๆกับเด็กประถมประวัติ
คุจิกิเป็นยมทูตหน่วย 13 แห่ง13หน่วยพิทักษ์ แต่เดิมเป็นเด็กสาวที่เติบโตจากเมืองลูคอนเขตที่78 ใช้ชีวิตเร่ร่อนไปวันๆ ต่อมาได้มาเจอกับ อาบาราอิ เร็นจิโดย บังเอิญ และได้เป็นเพื่อนสนิทกัน โดยที่ทั้งสองคนอาศัยอยู่ในบ้านพักที่เด็กเร่ร่อนมักจะใช้เป็นที่พักพิง ตอนเด็กๆนั้นเป็นเด็กผู้หญิงที่มาดเหมือนผู้ชาย ต่อยตีเก่ง พลังวิญญาณสูง พูดจาห้าวๆด้วยเช่นกัน แต่กระนั้น กิริยาท่าทางของเธอก็แฝงความเป็นผู้ดีอยู่มาก เมื่อเพื่อนของพวกเขาเสียชีวิตไปถึงสามคน ลูเคียและ อาบาราอิ เร็นจิจึง ตัดสินใจเข้าเรียนที่สถาบันชินโอเพื่อสอบเข้าหน่วยพิทักษ์ แต่ยังไม่ทันเรียนจบก็ได้รับการติดต่อให้เข้าเป็นคนของตระกูลคุจิกิ ตระกูลขุนนางชั้นสูงที่มีคุจิกิ เบียคุยะ หัวหน้าหน่วย 6 เป็นเจ้าบ้าน โดยเธอเองก็ได้รับการบรรจุเข้า 13 หน่วยพิทักษ ์หน่วยที่ 13 ในทันที ในช่วงที่เธอเข้าในหน่วยพิทักษ์ เธอได้รับการชี้แนะจาก "ชิบะ ไคเอ็น"รอง หัวหน้าหน่วย 13 อยู่บ่อย แต่เมื่อไคเอ็นถูกฮอลโลว์เข้าสิง ทำให้เธอต้องฆ่าไคเอ็นด้วยมือของตัวเอง ซึ่งเป็นผลให้เธอรู้สึกผิดต่อคนตระกูลชิบะอยู่ตลอดมา ปัจจุบันเป็นรองหัวหน้าหน่วยที่ 13บทบาท
ภาคแรก
ลูเคียถูกส่งมาที่โลกในคำสั่งลาดตระเวณเป็นเวลา 1 เดือน เธอได้รับบาดเจ็บจากการต่อสู้กับฮอลโลว์เพื่อช่วยอิจิโกะ และถ่ายทอดพลังยมทูตให้ ทำให้เธอต้องอาศัยกายหยาบของอุราฮาร่า คิสึเกะเพื่อ ฟื้นฟูพลังและอาศัยอยู่กับอิจิโกะจนกว่าจะฟื้นพลังยมทูตมาได้ แต่นั่นถือว่าเป็นการผิดกฎอย่างร้ายแรง ทำให้เมื่อพ้นช่วง 1 เดือนที่เธออยู่ในโลกมนุษย์แล้วทางโซลโซไซตี้จึงเริ่มสงสัย ในช่วงหลังของภาคแรก ลูเคียจึงถูกพากลับไปโดยคุจิกิ เบียคุยะหัวหน้าหน่วยที่ 6 ซึ่งเป็นพี่ชายบุญธรรม และอาบาราอิ เร็นจิรองหัวหน้าหน่วยที่ 6 ซึ่งเป็นเพื่อนสนิท ซึ่งอิจิโกะได้เข้าขัดขวางแต่ก็ไม่อาจจะช่วยอะไรได้ ลูเคียจึงถูกพากลับไปโซลไซตี้เพื่อรับ โทษประหารชีวิตทำให้คุโรซากิกับเพื่อนต้องบุกเข้าโซลไซตี้เพื่อช่วยเหลือลูเคียภาคโซลโซไซตี้
ลูเคียต้องรับโทษประหารจากการกระทำของตน โดยใช้"โซเคียคุ" (เครื่องมือสองชิ้นที่ใช้ในการประหาร ประกอบด้วยง้าวที่มีพลังเทียบเท่ากับดาบฟันวิญญาณ 1,000,000 เล่มและแท่นประหารที่ทนต่อดาบฟันวิญญาณได้ในปริมาณที่เท่ากัน) ซึ่งเธอต้องอยู่ในหอสำนึกตนจนกว่าจะถึงวันประหาร ซึ่งในขณะนั้นเธอได้นึกโทษตัวเองอยู่ตลอดถึงการกระทำที่ทำให้หลายๆคนต้องมา รับเคราะห์ ในช่วงนั้นทั้งอิจิโกะและคนอื่นๆต่างก็พยายามที่จะเข้ามาช่วยเธอ รวมทั้งความเห็นของบรรดาหัวหน้าหน่วยต่างๆที่เริ่มแตกแยกกันในเรื่องของการ ประหารลูเคีย โดยที่พวกอิจิโกะได้รับความสนับสนุนจากตระกูลชิบะและตระกูลชิโฮอินทำให้การ ช่วยเหลือลูเคียค่อยๆสะดวกขึ้น และเมื่อถึงวันประหารที่ "เนินโซเคียคุ" อิจิโกะได้เข้ามาช่วยเธอไว้ได้ รวมทั้งการช่วยเหลือจากอุคิทาเกะ จูชิโร่หัวหน้าหน่วย 13 ซึ่งเป็นหัวหน้าของเธอเอง และเคียวราคุ ชุนซุยหัวหน้าหน่วย 8 รวมทั้งเร็นจิ ทำให้เธอรอดจากการประหารมาได้ในที่สุดหากแต่ความจริงแล้วการประหารครั้งนี้มีเบื้องหลังที่น่าตกใจมาก โดยทุกอย่างเป็นฝีมือของอดีตหัวหน้าหน่วย 5 "ไอเซ็น โซสึเกะ" โดยมีจุดมุ่งหมายที่จะใช้โซเคียคุ ในการดึงเอาอุปกรณ์ลับที่อดีตหัวหน้าหน่วย 12 อุราฮาร่า คิสึเกะ ได้ซ่อนไว้ในร่างของลูเคีย นั่นคือ "โฮเงียคุ" เพื่อแผนการณ์ของตนเอง โดยลูเคียได้ถูก "โทเซ็น คานาเมะ" หัวหน้าหน่วย 9 ที่เข้าพวกกับไอเซ็นพาตัวกลับไปที่เนินโซเคียคุ และโดนไอเซ็นดึงเอาโฮเงียวคุออกมาในที่สุดและก็เกือบจะต้องสิ้นชีวิตด้วยน้ำ มือของ "อิจิมารุ งิน" แต่เธอก็ได้รับการช่วยเหลือจากเบียคุยะที่เข้ามาขวางทางดาบของอิชิมารุ จากนั้นเมื่อได้รับรู้ความจริงจากปากเบียคุยะ ก็ตัดสินใจอยู่ดูแลพี่ชายบุญธรรมและพักฟื้นพลังวิญญาณของเธอที่โซลโซไซตี้
หลังจากจบศึกที่โซลโซไซเอตี้ ลูเคียได้รับการอภัยโทษ เพราะคำสั่งที่ให้ประหารเธอในตอนแรกเป็นคำสั่งปลอมที่ไอเซ็นทำขึ้น (โดย 46 วังกลาง ที่ทำหน้าที่ออกคำสั่งถูกไอเซ็นฆ่าไปหมดแล้วก่อนหน้านี้หลายวัน) พร้อมกับได้กลับเป็นยมทูตอีกครั้ง เธอได้รวบรวมความกล้าเข้าไปขอโทษกับพี่น้องตระกูลชิบะได้สำเร็จ
ภาคเบาท์
ลูเคียได้กลับมาที่โลกเพื่อศึกต่อต้านเหล่าเบาท์ ที่กำลังวางแผนบุกโซลโซไซตี้ ซึ่งเธอได้โดนเบาท์ที่ชื่อ "มาบาชิ" ทำร้ายและควบคุมร่างกายเธอไว้ แต่ก็รอดมาได้เพราะโอริฮิเมะกับคุโรโดะ และรองหัวหน้าฮิซางิช่วยไว้ จนเมื่อกลับไปที่โซลโซไซตี้ เธอก็ได้สู้กับเบาท์ที่ชื่อโยชิ จนเกือบจะเอาชีวิตไม่รอดแต่เบียคุยะมาช่วยไว้ทัน แล้วได้พักฟื้นในบ้านตระกูลคุจิกิภาคอารันคาร์
ลูเคียได้รับคำสั่งจากโซลโซไซตี้ให้เข้าร่วมต่อสู้กับอิจิโกะอีกครั้งในศึกครั้งใหม่กับอาร์รันคาร์พร้อมกับยมทูตอีก 5 คนที่ถูกส่งมาพร้อมๆกัน โดยเธอได้แกล้งทำเป็นคนบ้านแตกกับพ่อของอิจิโกะเพื่อขอการอนุญาตให้สามารถเข้าอาศัยในบ้านของอิจิโกะได้ และตอนที่กริมจอว์ แจ็คเกอร์แจ็คกับ อารันคาร์อีก 5 ตนได้ปรากฏตัวในโลกมนุษย์ เธอก็ได้กำจัดอารันคาร์ "ดีรอย" ลงด้วยมือของตน แต่ก็ถูกทำร้ายจากกริมจอว์ จนได้รับบาดเจ็บสาหัส แต่ก็ได้รับการรักษาจากโอริฮิเมะ และต่อมาเธอก็ได้เข้าต่อกรกับกริมจอว์ ที่กำลังทำร้ายคุโรซากิ อิจิโกะอยู่ จนเกือบจะถูกจัดการ แต่ก็ได้รับการช่วยเหลือจากฮิราโกะที่เป็น "ไวเซิร์ด" จนรอดมาได้ และได้รับคำสั่งจากยามาโมโตะ เก็นริวไซ ชิเงคุนิให้กลับไปยังโซลโซไซเอตี้พร้อมกับยมทูตคนอื่นๆภาคฮูเอโก้มุนโด้
ลูเคียได้ปรากฏตัวอีกครั้งพร้อมกับเร็นจิในโลกของเหล่าฮอลโลว์ ทั้งสองได้รับความช่วยเหลือจากเบียคุยะจนสามารถเดินทางมาที่นี่ได้(เพราะ เบียคุยะบอกว่าเมื่อพากลับมาก็ไม่ได้รับคำสั่งว่าให้จัดการยังไงต่อ จึงมอบผ้าคลุมให้ และยอมปล่อยให้มาฮูเอโก้มุนโด้แบบอาศัยช่องว่างของคำสั่ง) และเข้าร่วมกับอิจิโกะในการต่อสู้ด้วย โดยในระหว่างที่พวกเธอบุกเข้ามาใน "ลาส นอร์เช่" ปราสาทของไอเซ็นและเหล่าอารันคาร์ เธอได้เผชิญหน้ากับอารันคาร์ระดับเอสปาด้าลำดับที่ 9 นาม "อาโรนีโร่ อัลลูเอรี่" ซึ่งได้เปิดเผยหน้าภายใต้หน้ากากของตน ก็คือ"ชิบะ ไคเอ็น"[1] และหลังจากที่ได้ฟังเรื่องราวจากไคเอ็นเรียบร้อยแล้ว ไคเอ็นก็ได้โจมตีเธอโดยอ้างเรื่องการแก้แค้นจากที่ตนถูกลูเคียฆ่าซึ่งลูเคีย เองก็ยอมรับ แต่ไคเอ็นกลับบอกว่าให้ชดใช้ด้วยการฆ่าพวกพ้องคนอื่นๆ นั่นทำให้ลูเคียบันดาลโทสะและเข้าต่อสู้กับไคเอ็นทันที แต่ด้วยฝีมือที่ต่างชั้นกันมาก ทำให้ลูเคียอยู่ในสภาวะตกที่นั่งลำบาก และในเวลานี้ก็กำลังเผชิญหน้ากับไคเอ็นที่ทำการปลดปล่อยดาบเรียบร้อยแล้ว แต่เมื่อการต่อสู้เริ่มไปได้พักใหญ่ ลูเคียได้ใช้วิธีล็อกร่างของไคเอ็นไว้ และทำลายผนังเพื่อให้ร่างของเขาสัมผัสแสง จนในที่สุดร่างที่แท้จริงของไคเอ็น หรืออาร์โรนีโร่ก็ปรากฏขึ้น และได้รู้ว่าเป็นฮอลโลว์ที่มีความสามารถในการกลืนกินฮอลโลว์ตนอื่นเพื่อ เพิ่มพลังให้กับตนและหนึ่งในนั้นก็คือฮอลโลว์ที่รวมร่างกับไคเอ็นนั่นเอง โดยลูเคียได้เผชิญหน้ากับอาโรนีโร่ที่ปลดปล่อยดาบของตนเอง ซึ่งเธอได้เสียท่าถูกเออร์โรนีโร่เสียบด้วยเนจิบานะจนได้รับบาดเจ็บสาหัส แต่ด้วยแรงฮึดที่เกิดจากการนึกถึงอดีตของตนกับไคเอ็น ลูเคียได้ใช้กระบวนท่าที่สามของดาบฟันวิญญาณ "ดาบสีขาว" เล่นงานอาโรนีโร่ได้สำเร็จ และได้หมดสติไปจนเกือบจะถูกสังหารโดยโซมารีเอสปาด้าลำดับที่ 7 แต่ก็ได้รับการช่วยเหลือจากเบียคุยะก่อนจะได้รับการรักษาจากอิซาเนะจนฟื้นคืนสติภาคดวงจิตแห่งศาสตรา
เพราะยมทูตทุกตนสูญเสียดาบฟันวิญญาณของตนเองไปเพราะถูกดาบฟันวิญญาณชื่อ มุรามาสะ บังคับ ทำให้ลูเคียเป็นหนึ่งในยมทูตที่สูญเสีย โซเดะโนะชิรายุกิไป จึงต้องออกตามหาเพื่อนำกลับมาเป็นอย่างเดิม โซเดะโนะชิรายุกิได้ทำร้ายลูเคียหลายต่อหลายครั้งและครั้งสุดท้าย ลูเคียได้ตัดสินใจปลดปล่อยให้โซเดะโนะชิรายุกิเป็นอิสระจากเธอ จึงลงมือพันธนาการด้วยวิถีพันธนาการที่ 61 คุกแสงหกชั้นเพื่อให้ตัวเธอและโซเดะโนะชิรายุกิติดกันไว้ จากนั้นจึงระบายความในใจ ก่อนใช้วิถีทำลายที่ 67 เพลิงสีฟ้าถล่มดอกบัวคู่ ระเบิดทั้งตัวเองไปพร้อมๆ กับโซเดะโนะชิรายุกิ ดาบฟันวิญญาณคู่ใจ แต่ลูเคียก็ยังคงไม่ตายและโซเดะโนะชิรายุกิก็ยังคงตกอยู่ในการควบคุมของมุ รามาสะเช่นเดิม จนกระทั่งเหตุการณ์ไม่คาดถึงคือ คุจิกิ เบียคุยะ กลับไปยืนหยัดอยู่ฝ่ายของมุรามาสะ ซึ่งได้ลงมือฆ่าโซเดะโนะชิรายุกิ ดาบฟันวิญญาณของลูเคีย นับเป็นดาบฟันวิญญาณแรกที่ถูกทำลายโดยมือของผู้อื่นที่ไม่ใช่เจ้าของ ตอนหลังได้มาช่วยเหลือลูเคียโดยโซเดะโนะชิรายูกิได้บอกว่าได้รับการช่วย เหลือจากหัวหน้าคุโรซึจิ มายูริไว้ภาคไอเซ็นบุกโลกมนุษย์
ในขณะที่ทาง 13 หน่วยพิทักษ์ส่วนหนึ่งที่อยู่ฝั่งโลกมนุษย์ได้ต่อสู้กับเอสปาด้าที่ไอเซ็นนำ มา ได้สู้กันอย่างดุเดือด ทั้งคู่ของซุยฟง ฮิตสึกายะ ชุนซุย และอุคิทาเกะ ที่พอสู้ไหวก็ได้ทำการรบต่อ อีกฝั่งหนึ่งที่ไปฮูเอโกมุนโดเพื่อที่จะช่วยเหลือ อิโนะอุเอะ โอริฮิเมะอีกเหมือนกัน คุจิกิ ลูเคีย อาบาไร เร็นจิ ซาโดะ ยาสึโทระ อิชิดะ อุริว ก็ได้ทำการสู้กับหน่วยรบพิเศษของฝั่งอารันคาร์ เพื่อที่จะให้ คุโรซากิ อิจิโกะ ได้บุกไปช่วย อิโนะอุเอะได้ ทางฝั่งลูเคียได้พบกับหัวหน้าหน่วยรบที่มีพลังที่เพิ่มลูกน้องได้ไม่จำกัด ก็ได้ต่อสู้กัน แต่ดูเหมือนจะเริ่มอ่อนล้าลงไปทุกที ในที่สุดลูเคียจึงได้ใช้ท่าไม้ตายของตน จนสามารถกำจัดหัวหน้าหน่วยรบพิเศษได้สำเร็จ แต่ว่า เอสปาด้าอันดับ 0 ยามี่ ริยัลโก ที่คาดว่าจะถูก อิชิดะ อุริว เล่นงานไปแล้วกับโผล่ตัวมา พร้อมกับพลังที่น่าสะพรึงกลัวที่ถูกเก็บไว้ภายใต้ความโกรธเกรี้ยวภาคตัวแทนยมทูตที่หายไป
ลูเคียได้ปรากฏตัวพร้อมกับเหล่ายมทูตระดับหัวหน้าหน่วย โดยการมาครั้งนี้มาเพื่อจะนำพลังของอิจิโกะกลับคืนมาและก็มาเพื่อสอดส่องอิจิโกะเนื่องจากเป็นกฎเก่าแก่ของโวลโซไซตี้ที่มีไว้ว่า ถ้ามีตัวแทนยมทูตอีกคนปรากฏตัวแล้ว ตามพวกกับกินโจว ก็ให้ทำการสังหาร โดยเหตุการณ์การรับรู้ทั้งหมดที่ส่งไปถึงสิบสามหน่วยพิทักษ์ได้ผ่านทาง ตราตัวแทนยมทูตของอิจิโกะแต่ตอนที่อิจิโกะรับรู้ความจริงก็ตัดสินใจที่จะ เชื่อมั่นในสิบสามหน่วยพิทักษ์จึงทำให้ ภารกิจนี้เป็นอันต้องยกเลิก และเปลี่ยนกฎใหม่เพื่ออิจิโกะได้เป็นตัวแทนยมทูตต่อไป
ดาบฟันวิญญาณ
ขั้นต้น (ชิไค)
- ชื่อ: โซเดะโนะชิรายูกิ (ญี่ปุ่น: 袖白雪 / ソデ ノ シラユキ Sode no Shirayuki, หิมะขาวในแขนเสื้อ ?)
- คำปลดปล่อย : "จงร่ายรำโซเดะโนะชิรายูกิ" (ญี่ปุ่น: 舞え / マエイ mae ?)
- ลักษณะ : ตัวคมดาบจะมีสีขาวทั่วทั้งเล่ม ทั้งใบมีด ด้ามดาบ โกร่งดาบ และมีริบบิ้นยาวห้อยออกมาจากปลายด้ามดาบ ได้ชื่อว่าเป็นดาบฟันวิญญาณที่งดงามที่สุดในโซลโซไซตี้
- ความสามารถ : เป็นดาบสายน้ำแข็ง มีรูปแบบของพลังอยู่ 3 แบบ
- ระบำที่ 1 (初めの舞) ซึคิชิโระ (ญี่ปุ่น: 月白 จันทราสีขาว ?) เป็นการใช้ดาบวาดขอบเขตวงกลมสีขาว ซึ่งจะแช่แข็งทุกสิ่งภายในขอบเขต จากพื้นจนถึงขอบฟ้าแม้จะไม่ได้เหยียบอยู่บนพื้นก็ตาม
- ระบำที่ 2 (次の舞) ฮาคุเร็น (ญี่ปุ่น: 白漣 ระลอกขาว ?) เป็นการยิงคลื่นพลังเป็นริ้วๆ 4 สาย และจะเปลี่ยนไปเป็นคลื่นน้ำแข็งเข้าโจมตี
- ระบำที่ 3 (参の舞) ชิราฟุเนะ (ญี่ปุ่น: 白刀 ดาบสีขาว ?) เป็นการสร้างคมดาบน้ำแข็งขึ้นจากดาบเข้าแทงศัตรู ซึ่งแม้ตัวดาบจะหักไปแล้วก็ยังสามารถใช้ท่านี้ได้[2]
- รูปร่างที่แท้จริง : เป็นผู้หญิงผมยาว ผิวสีขาวดังหิมะ สง่างามในชุดกิโมโน นับเป็นผู้หญิงที่สวยมากคนหนึ่ง
ขั้นปลดปล่อยสวัสดิกะ (บังไค)
เกร็ดความรู้
- เนื่องจากลูเคียต้องการจะเป็นกุลสตรีที่สมบูรณ์พร้อมอย่าง มิยาโกะ ภรรยา ของไคเอ็น ทำให้เธอมีความสามารถพิเศษในการทำอาหารด้วย
- ย้อนไปตอนที่ไอเซ็นออกไปจากโซลโซไซตี้ใหม่ๆ พวกเบียคุยะ ต่างได้รับบาดเจ็บต้องรักษาตัวที่หน่วย 4 ลูเคียจึงอยากทำของกินไปให้เบียคุยะ ซึ่งในตอนแรก ลูเคียทำของหวาน (ชิราทามะ) ไปให้ แต่ปรากฏว่า เบียคุยะชอบทานของเผ็ด จึงเอาขนมไปให้รันงิคุแทน ต่อมา ลูเคียทำแกงกระหรี่ แต่พอจะเอาไปให้เบียคุยะ อุโนะฮานะ หัวหน้าหน่วย 4 แนะนำว่าไม่เหมาะกับคนที่เพิ่งทุเลาจากอาการบาดเจ็บ เธอจึงเอาไปให้ เร็นจิกับอิจิโกะแทน ซึ่งทุกคนต่างก็ชมว่าฝีมือทำกับข้าวของเธออร่อยมาก จนสุดท้าย เธอจึงต้มข้าวต้มไปให้เบียคุยะ ซึ่งเบียคุยะไม่ได้พูดอะไร แต่ก็ค่อยๆทานจนหมด ทำให้ลูเคียรู้สึกว่าความสัมพันธ์ระหว่าง เธอกับพี่ชาย ดีขึ้นทีละน้อยๆ[3]
- ในลำดับการสอบที่ปรากฏในภาคแรก ลูเคียได้ลำดับที่ 302 จาก 322 ลำดับ เพราะนอกจากภาษาญี่ปุ่นแล้ว ลูเคียสอบตกหมดทุกวิชา[4]
- วันเกิด : 14 มกราคม
- ส่วนสูง : 144
- น้ำหนัก : 33
- กรุ๊ปเลือด : B
อ้างอิง
- ^ เทพมรณะตอนที่ 262
- ^ เทพมรณะบทที่ 268
- ^ อ้างอิงจาก bleach novel : The honney dish rhapsody
- ^ "อินไซด์ Bleach" Dek-D"
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น