ลักษณะ/อุปนิสัย
คิสึเกะ เป็นเจ้าของร้านอุราฮาร่า ผู้มีเอกลักษณ์คือสวมเสื้อจินเบ ใส่หมวกลาย และสวมรองเท้าเกี๊ยะ (ตอนแรกอิจิโกะเรียกอุราฮาร่าว่า "เจ้าหมวกเกี๊ยะ") ภายนอกดูเหมือนเป็นคนบ้าๆบอๆ แต่เมื่อเขาจับดาบฟันวิญญาณแล้วจะเปลี่ยนเป็นคนละคนทันทีประวัติ
ปัจจุบันคิสึเกะเป็นผู้จัดการร้านอุราฮาร่า ชอบสวมเกี๊ยะกับหมวกตลอด จนอิจิโกะเรียกว่า "เจ้าหมวกเกี๊ยะ" มีลูกน้อง 3 คน คือ เท็ตไซ จินตะ และอุรุรุ ซึ่งแต่ละคนมีพลังที่พอจะปราบฮอลโลว์ได้ คิสึเกะเคยเป็นผู้ก่อตั้งและหัวหน้ากองรุ่นแรกของกองวิจัยวิทยาการ (หน่วย 12 ของโซลโซไซตี้) แต่ต่อมาได้ถูกเนรเทศออกจากโซลโซไซตี้ตลอดกาล เนื่องจากคิดค้นโฮเงียคุกับกายหยาบที่ดูดกินพลังของยมทูตขึ้น และต่อมากายหยาบนี้เองที่เป็นสาเหตุให้พลังวิญญาณของลูเคียฟื้นช้า (ที่จริงไม่ฟื้นเลย เพราะเป็นกายหยาบที่ดูดกลืนพลังวิญญาณ) แต่ในคราวนั้นคิสึเกะก็ได้โยรุอิจิที่เป็นเพื่อนสนิทช่วยเหลือ จนได้มาเป็นคนขายของบนโลกมนุษย์ที่มีลูเคียเป็นลูกค้าประจำ ส่วนตัวแล้วนิสัยจะออกแนวกวนๆ ทะลึ่งทะเล้น แต่กลับเก่งกาจอย่างไม่เข้ากับบุคคลิก มีบทบาทสำคัญในการช่วยเหลือและฝึกวิชาให้กับอิจิโกะบทบาท
ภาค โลกมนุษย์
คิสึเกะขายของให้ลูเคีย คือ ลูกวิญญาณเทียมหรือโซลแคนดี้ แต่ที่ซื้อกลับมากลายเป็นมอดโซลซึ่งห้ามผลิต คิสึเกะจึงจะเอาไปทำลาย แต่ลูเคีย(อิจิโกะเป็นคนยัดใส่ต่างหากเพราะบอกว่ายังด่าที่นายเอาร่างฉันไป ใช้โดยพละการและถามลูเคียว่าต้องอยู่ในร่างมนุษย์เท่านั้นหรือลูเคียตอบว่า ไม่แน่ใจพออิจิโกะหันไปเห็นตุ๊กตาหมีที่กองขยะเลยเอามาแล้วเอายายัดใส่และ ตั้งชื่อว่าคอน )สงสารจึงเอาไปใส่ตุ๊กตายัดนุ่น แล้วคิสึเกะก็ปรากฏอีกครั้งตอนที่ดอน คันออนจิปรากฏตัว แต่ตอนนี้คิสึเกะไม่ช่วยอะไรเพราะอุรุรุอยากดูคันออนจิจึงพามาดู แล้วคิสึเกะก็ปรากฏอีกครั้ง ที่สถานที่ที่ฮอลโลว์มารุมอิจิโกะ ซึ่งคราวนี้คิสึเกะอยู่เฉยๆ แต่ให้พวกจินตะสู้กับฮอลโลว์แทน แล้วก็มาอีก ซึ่งมาช่วยถอดร่างอิจิโกะให้เป็นยมทูตไปชิงตัวลูเคียมา และอีกครั้งก็มากางร่มให้อิจิโกะที่ลงไปนอนกับพื้น แล้วพาไปฝึกบททดสอบสุดโฉดเพื่อเรียกพลังยมทูตคืนมา รอบแรก ให้สู้กับอุรุรุที่พลังสูงม๊ากมากแต่ก็ชนะได้ รอบสอง ให้ชิงพลังยมทูตมา ซึ่งอิจิโกะได้พบซันเงสึ ส่วนรอบสาม คิสึเกะลงมือต่อสู้กับอิจิโกะแต่อิจิโกะก็ผ่านได้ แล้วคิสึเกะก็สร้างประตูเซ็นไกมอนให้พวกอิจิโกะเข้าไปแล้วคิสึเกะก็จบบทบาท โลกที่ตรงนั้น และได้ออกมารับพวกอิจิโกะ หลังจากที่ได้กลับมาจากโซลโซไซตี้แล้วภาคเบาท์
อุราฮาระได้สร้างตัวเซนเซอร์ตรวจจับหาเบาท์ขึ้นมา และให้ไปอยู่ในกายหยาบที่สร้างขึ้น (เป็นลูกแก้ววิญญาณ ตอนหลังอยู่ในตุ๊กตาแทน มี 3 ตัว) และได้จัดฉากสร้างการฝึกให้กับพวกอิจิโกะ โดยให้ลูกแก้ววิญญาณ (ตัวเซนเซอร์เบาท์) แกล้งเป็นตัวร้าย ตอนหลังเฉลยให้พวกอิจิโกะได้รู้ถึงศัตรูตัวใหม่ที่แฝงเข้ามาในเมืองคาราคุระ และพวกอิจิโกะก็ได้ต่อสู้กับเบาท์จนไปถึงโซลโซไซตี้ภาค อารันคาร์
คิสึเกะและโยรุอิจิได้มาช่วยอิจิโกะที่โดนฮอลโลว์ครอบงำแล้วถูกยามี่เล่น งานจนแทบสะบักสะบอม แต่แล้วอุลคิโอร่าเข้ามาช่วยยามี่ไว้จึงพาหนีไปได้ต่อมาได้ช่วยรองหัวหน้า รันงิคุจากการถูกลูปีโจมตีและได้ต่อสู้กับ วอนเดอร์ไวซ์ มัลเจร่าซึ่งเป็นอารันคาระดับเอสปาด้าตัวใหม่ภาค อดีต
อุราฮาร่า คิสึเกะ เคยเป้นหัวหน้าหน่วยย่อยของหน่วย2 ใต้บังคับบัญชาของชิโฮอิน โยรุอิจิ เขาปรากฏตัวขึ้นด้วยการสู้กับโยรุอิจิ และได้พูดคุยถึงเรื่องการเสนอคิสึเกะให้เป็นหัวหน้าหน่วยจากโยรุอิจิ ซุยฟงที่ยังเป็นสมาชิกอยู่คัดค้านการเป็นหัวหน้าของคิสึเกะ จึงได้แอบติดตามไปดูพฤติกรรม แต่ก็ถูกโยรุอิจิจับได้และถุกแซวว่าแอบชอบคิสึเกะ ขณะนั้น หน่วยลับก็มาแจ้งข่าวบางอย่าง คิสึเกะรีบออกไปทันทีโดยทิ้งความสงสัยของซุยฟงไว้เบื้องหลัง และได้สัญญากับโยรุอิจิว่าจะกลับมาให้ทันการทดสอบการเป็นหัวหน้าหน่วยที่12 คิสึเกะกับพรรคพวกได้ซุ่มดูบ้านหลังหนึ่งและเตรียมจะบุก ซุยฟงตามมาเพราะต้องการแก้ข้อสงสัย แต่ก่อนจะพูดอะไร คิสึเกะบอกเพียงแค่ว่า ในนั้นเป็นพวกยมทูตที่หนีออกมา และหายตัวเข้าไปในบ้านหลังนั้น ไม่กี่วินาทีถัดมาบ้านก็ระเบิด ซุยฟงที่รีบวิ่งตามมาดูก็พบเพียงคิสึเกะยืนอยู่ท่ามกลางเหล่ายมทูตหลบหนีที่ หมอบราบไปแล้ว หลังจากนั้นไม่นาน ณ ที่ประชุมหัวหน้าหน่วย คิสึเกะก็ได้ปรากฏตัวขึ้นในชุดคลุมยาวของหัวหน้าหน่วยที่12 เป็นการยืนยันหลักฐานว่าเขาผ่านการทดสอบจากหัวหน้าหน่วย4คนเป็นที่เรียบร้อยดาบฟันวิญญาณ
ไฟล์:C:\Documents and Settings\pc\Desktop\L\BLEACH\URAHARAขั้นต้น (ชิไค)
- ชื่อ : เบนิฮิเมะ (ญี่ปุ่น: 紅姫 Benihime เจ้าหญิงโลหิต ?)
- คำปลดปล่อย : จงร่ำร้อง (ญี่ปุ่น: 泣け nake ?)
- ลักษณะ :เป็นดาบตรง ตรงส่วนที่งอเหมือนไม้เท้าจะเปลื่ยนแบบไป ตัวดาบกับด้ามดาบติดกันโดยไร้กรั่นดาบ(เพราะกรั่นแบนเรียบติดใบดาบ)แต่ บริเวณดังกล่าวมีเชือกสีแดงผูกโบว์ด้านนึง อีกด้านมีระย้าโซ่(รูปแบบโซ่สามเหลี่ยม)ห้อยออกมา ด้ามดาบมีไหมญี่ปุ่นทักสีแดงห้อยอยู่
- ความสามารถ :
รูปแบบที่ 1 Nake Benihime เป็นท่าโจมตีด้วยพลังแบบเดียวกับซีโร่ของเหล่าอารันคาร์ มีลักษณะคล้ายคลื่นดาบพุ่งออกไป มีเสียงคล้ายจรวดพุ่ง
รูปแบบที่ 2 เป็นการสร้างโล่ ที่มีชื่อว่า "โล่หมอกโลหิต" กางเป็นม่านพลังรูปหกเหลี่ยม มีตัวอักษรบนโล่หมอก สามารถใช้ป้องกันพลังหรือการโจมตีได้
รูปแบบที่ 3 Kirisaki Benihime เป็นท่าโจมตีที่เกิดขึ้นต่อเนื่องหลังจากใช้โล่หมอกโลหิตแล้ว จะเป็นการยิงกระสุนสีเลือดจำนวนมากจากโล่หมอกโลหิต ( คำว่าคิริซากิ หมายถึง การตัดฉีก หรือแยกออก )
รูปแบบที่ 4 Shibari Benihime จะสร้างพลังสีเลือดคล้ายแหออกไปคลุมศัตรูเอาไว้ ทำให้ศัตรูเคลื่อนไหวไม่ได้
รูปแบบที่ 5 Hiasobi Benihime Juujutsunagi เป็นท่าต่อเนื่องจาก Shibari benihime ที่เมื่ออุราฮาร่าปักดาบลงบนแหแล้ว จะเกิดเป็นลูกบอลบรรจุไฟเล็กๆ ผุดขึ้นตามแหนั้น ไปจนทั่วแล้วเกิดระเบิดขนาดมหาศาลในเขตพื้นที่ที่แหนั้นปกคลุมไว้
ขั้นสวัสดิกะ (บังไค)
มีแต่ยังไม่ปรากฏครับเพราะว่าอุราฮาร่า คิสึเกะเคยเป็นหัวหน้าหน่วยท่ 12 หัวหน้าหน่วยทุกคนมีบังไคทุกคน(ยกเว้นซาราคิ เคมปาจิเพราะเข้าเป็นหัวหน้าหน่วยได้โดยฆ่าหัวหน้าคนเก่าได้)+โยรุอิจิเคย บอกว่าอุราฮาร่าสามารถปลดปล่อยบังไคได้ภายใน 3 วัน และในตอนที่ 126 แชดได้มาขอให้อุราฮาร่าช่วยทำให้เขาเก่งขึ้น อุราฮาร่าจึงขอให้อาบะไรเป็นคนฝึกให้แชดเพราะคนที่จะฝึกให้จะต้องใช้บังไค จึงจะทำให้แชดเก่งขึ้นได้ แต่อาบะไรไม่ไม่ยอมโดย อ้างว่าอุร่าฮาร่าเองก็มีบังไคเช่นกัน อุราฮาร่าจึงตอบว่า" ...บังไคของผมใช้ฝึกใครไม่ได้หรอกครับ... " อาบะไรจึงยอมฝึกให้แชด เชื่อกันว่าบังไคของอุราฮาร่า มีพลังมากที่สุดในบรรดายมทูต
เครดิต:น้องวิกี้พีเดีย
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น